ผลการจัดอันดับเมืองที่สกปรกที่สุดในโลกนั้นได้มาจากการสำรวจเมืองทั้ง 215 เมืองทั่วโลก โดยขึ้นอยู่กับระดับของมลพิษทางอากาศ, การจัดการขยะ, ระบบการระบายน้ำเสีย, การควบคุมโรคและการติดเชื้อ โดยมีคะแนนสุขภาพและสุขาภิบาล 100 คะแนน ซึ่งจากผลการจัดอันดับเมืองที่สกปรกที่สุด ได้คะแนนสุขภาพและสุขาภิบาลเพียงแค่ 27.6 คะแนนเท่านั้น ถือว่าเป็นคะแนนที่แย่ที่สุดและเป็นเมืองที่สกปรกที่สุด คงอยากรู้กันแล้วว่าจะมีเมืองไหนบ้าง ได้คะแนนเท่าไร ไปเริ่มจากอันดับแรกกันเลย
อันดับที 1 เมืองบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน (Baku, Azerbaijan) - Score: 27.6
บากู (Baku) เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศอาเซอร์ไบจาน (Azerbaijan) ซึ่งเป็นประเทศในแถบเทือกเขาคอเคซัส บริเวณที่เป็นจุดเชื่อมต่อของภูมิภาคยุโรปตะวันออกกับเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ เมืองบากูประกอบด้วยพื้นที่ 3 ส่วน ได้แก่ ย่านเมืองเก่า ตัวเมืองปัจจุบัน และตัวเมืองที่สร้างขึ้นในสมัยโซเวียต ปัจจุบัน บากูได้เป็นศูนย์กลางแห่งน้ำมัน มีการทำปิโตรเลียมจำนวนมหาศาลเพื่อมาใช้ประโยชน์ ส่งผลให้เมืองบากูต้องทนทุกข์ทรมานในการใช้ชีวิต จากการคุกคามของมลพิษทางอากาศที่ปล่อยออกมาจากการขุดเจาะน้ำมันและการการส่งสินค้า จากการสำรวจได้ยกอันดับที่ 1 ให้เมืองบากู เนื่องจากมีคะแนนสุขภาพและสุขาภิบาลเพียงแค่ 27.6 คะแนนเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นคะแนนที่เลวร้ายที่สุด
อันดับที่ 2 เมืองธากา ประเทศบังคลาเทศ (Dhaka, Bangladesh) - Score: 29.6
ธากา (Dhaka) เป็นเมืองหลวงของประเทศบังกลาเทศ (Bangladesh) ซึ่งตั้งอยู่ในทวีปเอเชียใต้ เมืองธากาต่อสู้กับภัยคุกคามอย่างต่อเนื่องจากมลพิษทางน้ำ มลพิษทางดิน มลพิษที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากการใช้สารกำจัดศัตรูพืชในเชิงพาณิชย์ ซึ่งทำให้เกิดโรคต่างๆตามมา ธากาเป็นเมืองขนาดเล็กแต่มีประชากรมากถึง 150 ล้านคนที่อาศัยอยู่ที่นั่น การทำความสะอาดเพื่อแก้ปัญหาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
อันดับที่ 3 เมืองอันตานานาริโว ประเทศมาดากัสการ์ (Antananarivo, Madagascar) - Score: 30.1
อันตานานาริโว (Antananarivo) เป็นเมืองหลวงของประเทศมาดากัสการ์ (Madagascar) ตั้งอยู่นอกชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปแอฟริกาในมหาสมุทรอินเดีย มีความหลากหลายของพืชและสัตว์ที่ไม่ซ้ำกัน มาดากัสการ์เรียกได้ว่าเป็นทวีปที่ 8 ของโลก เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม มีประชากรและมีนักท่องเที่ยวเยอะ แต่ผลที่เกิดขึ้นจากการกระทำมนุษย์นั้นได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเหลือไว้แค่รอยเท้าของพวกเขาเท่านั้น
อันดับที่ 4 เมืองปอร์โตแปรงซ์ ประเทศเฮติ (Port au Prince, Haiti) - Score: 34
ปอร์โตแปรงซ์ (Port au Prince) เป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเฮติ (Haiti)
ซึ่งอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ เมืองปอร์โตแปรงซ์ ตั้งอยู่บริเวณอ่าวกอนาฟว์ซึ่งเป็นท่าเรือทางธรรมชาติ ที่ยังคงมีความสำคัญด้านเศรษฐกิจตั้งแต่อารยธรรมของชาวอาราวัก มีเขตการค้าติดกับน้ำและเขตที่อยู่อาศัยตั้งอยู่บนเขา พลเมืองของเมืองมีความไม่แน่ชัดเนื่องจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของสลัม เฮติเป็นประเทศที่มีความรุนแรงทางการเมือง เกิดอาชญากรรม ทั้งลักพาตัวปล้นจี้ ผู้คนส่วนใหญ่เป็นเด็กและเยาวชน และมีไม่กี่คนที่รอดจนถึงอายุ 50 ส่วนมากเสียชีวิตเพราะโรคเอดส์ โรคร้ายแรง หรือความรุนแรง นอกจากนี้เฮติยังเป็นประเทศที่ขาดการควบคุมมลพิษ ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมตามมา ทั้งทางอากาศและทางน้ำ ทำให้เกิดโรคระบาดและโรคติดต่อต่างๆอันดับที่ 5 เมืองเม็กซิโก ซิตี้ ประเทศเม็กซิโก (Mexico City, Mexico) - Score: 37.7
เม็กซิโก ซิตี (Mexico City) เป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเม็กซิโก (Mexico) นอกจากนี้เมืองเม็กซิโก ซิตี ยังเป็นเมืองหลวงของมลพิษทางอากาศในทวีปอเมริกาเหนืออีกด้วย เนื่องจากเมืองแห่งนี้ถูกล้อมรอบด้วยภูเขา มลพิษที่เกิดจากหมอกควันจึงฟุ้งกระจายอยู่ทั่วทั้งตัวเมือง
อันดับที่ 6 เมืองแอดดิสอาบาบา ประเทศเอธิโอเปีย (Addis Ababa, Ethiopia) - Score: 37.9
แอดดิสอาบาบา (Addis Ababa) เป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเอธิโอเปีย (Ethiopia) ซึ่งเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลที่ตั้งอยู่ในส่วนแหลมของทวีปแอฟริกา ประเทศเอธิโอเปียต้องประสบกับปัญหาด้านสุขอนามัยเหมือนกับประเทศอื่นในทวีปแอฟริกา ขาดการดูแลด้านสุขาภิบาลทำให้เกิดโรคต่างๆที่มากับน้ำ และส่งผลให้การตายของทารกมากขึ้น
อันดับที่ 7 เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย (Mumbai, India) - Score: 38.2
มุมไบ (Mumbai) ตั้งอยู่บนริมฝั่งทะเลอาหรับในประเทศอินเดีย ท่ามกลางชายฝั่งที่ทอดยาวกับภูเขาสูงที่ปกคลุมด้วยป่าเขตร้อนชื้นและป่าผลัดใบ มุมไบมีความสำคัญในฐานะเป็นเมืองท่า และเป็นศูนย์กลางทางการค้า การท่องเที่ยว ประชากรอินเดียก็แออัดมากพออยู่แล้วแถมยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีก คุณภาพชีวิตของคนที่นี่ยังต่ำมาก ที่อยู่ที่กินก็แสนจะแพง คนส่วนใหญ่เลยหันไปกินอยู่ในสลัมแทน ทำให้เมืองแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยปัสสาวะและสิ่งปฏิกูลต่างๆ นำไปสู่การแพร่ระบาดของโรคติดต่อต่างๆ
อันดับที่ 8 เมืองแบกแดด ประเทศอิรัก (Baghdad, Iraq) - Score: 39
แบกแดด (Baghdad) เป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศอิรัก (Iraq) ซึ่งเป็นประเทศในตะวันออกกลางของทวีปเอเชีย ด้วยคุณภาพน้ำที่แย่เข้ามาคุกคามอย่างรุนแรงในกรุงแบกแดด ส่งผลให้เกิดโรคระบาดต่างๆจากน้ำที่ไม่สะอาด การระบาดของอหิวาตกโรคลุกลามอย่างรวดเร็ว นอกจากยังเกิดมลพิษทางอากาศซึ่งเกิดจากการเผาไหม้ของน้ำมันเนื่องมาจากการสงครามเป็นสาเหตุหลัก
อันดับที่ 9 เมืองอัลมาตี ประเทศคาซัคสถาน (Almaty, Kazakhstan) - Score: 39.1
อัลมาตี (Almaty) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศคาซัคสถาน (Kazakhstan) ซึ่งเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลและมีพื้นที่ครอบคลุมอย่างกว้างขวางในทวีปเอเชีย เมืองอัลมาตีเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศ และยังเป็นแหล่งอุตสาหกรรมด้านปิโตรเลียมของประเทศอีกด้วย แต่การป้องกันและควบคุมมลพิษที่นี่ยังไม่เพียงพอ ยังไม่มีการควบคุมการทิ้งขยะมีพิษไว้ให้เป็นที่เป็นทาง เมืองนี้จึงประสบปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและมลพิษที่ร้ายแรง
อันดับที่ 10 เมืองบราซซาวิล ประเทศคองโก (Brazzaville, Congo) - Score: 39.1
บราซซาวิล (Brazzaville) เป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐคองโก (Congo) ซึ่งเป็นประเทศในภูมิภาคแอฟริกากลาง เมืองบราซซาวิลเกิดมลพิษทางอากาศที่จากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การขาดน้ำดื่มและการปนเปื้อนของน้ำในเมืองซึ่งมีการปล่อยน้ำเสียออกมา ปัญหาด้านสุขภาพและสุขอนามัยของชาวเมืองบราซซาวิลค่อนข้างร้ายแรง ทำให้เกิดโรคระบาดต่างๆและปัญหาเหล่านี้ช่วยลดทอนอายุขัยของประชากรในเมืองแห่งนี้ลงอย่างมาก
อันดับที่ 11 เมืองเอ็นจาเมนา ประเทศชาด (Ndjamena, Chad) - Score: 39.7
เอ็นจาเมนา (Ndjamena) เป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศชาด (Chad) ซึ่งเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลอยู่ในทวีปแอฟริกากลาง เมืองเอ็นจาเมนานั้นอยู่บนฝั่งแม่น้ำชารี ซึ่งเป็นตลาดสำคัญของการทำปศุสัตว์ เกลือ อินทผลัม ธัญพืช เนื้อสัตว์ ปลา การทำฝ้าย ที่ถือเป็นอุตสาหกรรมสำคัญ และยังเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศชาด เอ็นจาเมนาต้องเผชิญกับความท้าทายในเรื่องการบริหารจัดการน้ำ มีการทำประมงกันมาขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเติบโตของประชากรมากขึ้นและมีการย้ายถิ่นฐานของผู้ลี้ภัยชาวซูดานอีกด้วย การบริหารจัดการน้ำเป็นไปได้ค่อนข้างลำบาก ชาวเมืองต้องขาดแคลนน้ำและใช้น้ำที่ไม่สะอาด ทำให้ประสบปัญหาด้านสุขภาพและสุขอนามัย
อันดับที่ 12 เมืองดาร์-เอส-ซาลาม ประเทศแทนซาเนีย (Dar es Salaam, Tanzania) - Score: 40.4
ดาร์-เอส-ซาลาม (Dar es Salaam) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศแทนซาเนีย (Tanzania) ซึ่งเป็นประเทศที่อยู่บนชายฝั่งตะวันออกของทวีปแอฟริกา เมืองดาร์-เอส-ซาลามประสบปัญหาด้านสุขาภิบาล ขยะมูลฝอยไหลเข้าแม่น้ำ ก่อให้เกิดการแพร่กระจายอย่างกว้างของเชื้อโรคต่างๆ ซึ่งโรคเหล่านี้แพร่เชื้อให้กับคนที่อาศัยอยู่ในเมือง ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากการจัดการขยะในเมืองนี้ยังไม่มีการควบคุมให้ถูกสุขอนามัย
อันดับที่ 13 เมืองบังกี สาธารณรัฐแอฟริกากลาง (Bangui, Central African Republic) - Score: 42.1
บังกี (Bangui) เป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐแอฟริกากลาง (Central African Republic) ซึ่งเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลในทวีปแอฟริกา บังกีต้องเผชิญกับความท้าทายในด้านการบริหารจัดการน้ำและสุขาภิบาลเหมือนกับเมืองหลวงของประเทศเพื่อนบ้าน ประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วควบคู่กับการขาดแคลนน้ำ ทำให้เมืองนี้เต็มไปด้วยความเครียด
อันดับที่ 14 เมืองมอสโก ประเทศรัสเซีย (Moscow, Russia) - Score: 43.2
มอสโก (Moscow) เป็นเมืองของประเทศรัสเซีย (Russia) ซึ่งเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก มอสโกยังเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเงิน การศึกษา และการเดินทางของประเทศ ในเมืองที่คุณสามารถจ่ายค่าพาร์ทเมนต์ 3,000 ดอลลาร์ต่อเดือนด้วยคุณภาพที่ไม่น้ำสะอาด ในเมืองที่มีระดับมลพิษทางอากาศมากมาย ซึ่งทำให้เกิดปัญหาสุขภาพปอด การในชีวิตในเมืองนี้ไม่ได้เป็นไปด้วยความลำบาก ไม่ได้สวยหรูเหมือนที่เราคิดเลย
อันดับที่ 15 เมืองวากาดูกู ประเทศบูร์กินาฟาโซ (Ouagadougou, Burkina Faso) - Score: 43.4
วากาดูกู (Ouagadougou) เป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศบูร์กินาฟาโซ (Burkina Faso) ซึ่งเป็นประเทศในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกและเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล เมืองวากาดูกูเป็นศูนย์กลางด้านการบริหาร คมนาคม วัฒนธรรม และเศรษฐกิจของประเทศ มีอุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร และสิ่งทอ มีสนามบินนานาชาติ มีสายรถไฟไปเมืองอาบีจาน ประเทศโกตดิวัวร์ และกายาทางตอนเหนือ และมีทางด่วนไปเมืองนีอาเม ประเทศไนเจอร์ จากการศึกษาของธนาคารโลกที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าเมืองวากาดูกูมีอัตราการเกิดโรคมะเร็งและโรคทางเดินหายใจเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุมาจากมลพิษทางอากาศที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยเกือบ 3 เท่า ที่องค์การอนามัยโลกได้กำหนดไว้ และเมืองวากาดูกูยังต้องเผชิญหน้ากับการจัดการของเสียและระบบสุขาภิบาลอีกด้วย
อันดับที่ 16 เมืองบามาโก ประเทศมาลี (Bamako, Mali) - Score: 43.7
บามาโก (Bamako) เป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศมาลี (Mali) ซึ่งเป็นประเทศในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกและเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล เมืองบามาโกในอดีตเคยเป็นแหล่งผลิตและค้าทองคำให้กับอาณาจักรต่างๆ ที่อยู่รายรอบแม่น้ำไนเจอร์ แต่ปัจจุบันเป็นเมืองท่าริมแม่น้ำ เป็นศูนย์กลางการขนส่งทางเรือและอุตสาหกรรมต่างๆ มีการเติบโตของประชากรอย่างรวดเร็วควบคู่ไปกับมลพิษต่างๆในเมือง ประสบปัญหาด้านสุขภาพและสุขอนามัย ภัยแล้งได้ก่อให้เกิดการย้ายถิ่นจากชนบทไปสู่เมืองหลวง ซึ่งนำมาด้วยปัญหาการบริหารจัดการน้ำและด้านสภาพแวดล้อมที่ย่ำแย่ลงอย่างต่อเนื่อง
อันดับที่ 17 เมืองปอยท์นัวร์ ประเทศคองโก (Pointe Noire, Congo) - Score: 43.8
ปอยท์นัวร์ (Pointe Noire) เป็นเมืองหนึ่งของประเทศคองโก (Congo) ซึ่งเป็นประเทศในภูมิภาคแอฟริกากลาง เมืองปอยท์นัวร์ต้องทนทุกข์ทรมานจากมลพิษทางอากาศซึ่งเกิดจากยานพาหนะ และการปนเปื้อนของน้ำประปาที่ไม่สะอาด เน่าเสีย ส่งผลต่อสุขภาพและสุขอนามัยของคนเมืองนี้เป็นอย่างมาก
อันดับที่ 18 เมืองโลเม ประเทศโตโก (Lome, Togo) - Score: 44.1
โลเม (Lome) เป็นเมืองหลวงของประเทศโตโก (Togo) ซึ่งเป็นประเทศในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก (เขตที่ราบสูงกินี) เมืองโลเมเป็นศูนย์กลางการปกครองและการอุตสาหกรรมของประเทศ มีท่าเรือสินค้าส่งออกที่สำคัญของประเทศคือ กาแฟ, โกโก้, โกปรา และแก่นปาล์ม นอกจากนั้นยังมีโรงกลั่นน้ำมันอีกด้วย น้ำและการจัดการของเสียได้กลายเป็นหนึ่งในปัญหาหลักของประเทศ ประชากรส่วนใหญ่ยังอยู่ได้โดยปราศจากการน้ำและการสุขาภิบาลที่ดี ปัญหาน้ำท่วมในประเทศก็ยังเป็นที่ต้องแก้ไขอยู่
อันดับที่ 19 เมืองโกนากรี ประเทศกินี (Conakry, Guinea Republic) - Score: 44.2
โกนากรี (Conakry) เป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศกินี (Guinea Republic) ซึ่งเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา โกนากรีเป็นเมืองท่าทางทะเลในมหาสมุทรแอตแลนติก เป็นศูนย์กลางทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การเงิน และวัฒนธรรมของประเทศ เมืองโกนากรีต้องประสบปัญหาเรื่องการเจ็บป่วยของเด็กอ่อน อายุขัยของประชากรสั้นลง และการขาดน้ำที่สะอาด โกนากรีมุ่งเน้นการแก้ปัญหาไปที่เรื่องน้ำประปาและระบบสุขาภิบาล แต่ผลที่ออกมาไม่ประสบความสำเร็จมากนัก
อันดับที่ 20 เมืองนูแอกชอต ประเทศมอริเตเนีย (Nouakchott, Mauritania) - Score: 44.7
นูแอกชอต (Nouakchott) เป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐอิสลามมอริเตเนีย (Islamic Republic of Mauritania) ซึ่งเป็นประเทศทางตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา นอกจากนี้ นูแอกชอตยังเป็นหนึ่งในเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในทะเลทรายซาฮาราอีกด้วย เป็นศูนย์กลางการบริหารประเทศและยังเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย เนื่องจากสภาพภูมิอากาศเป็นแบบทะเลทราย ภัยแล้งและการบริหารจัดการน้ำจึงเป็นปัญหาที่สำคัญของประเทศ น้ำมันและแร่เหล็กเป็นโอกาสที่จะเติบโตของอุตสาหกรรมหลักในประเทศ แต่ประชากรส่วนใหญ่ก็ยังทำเกษตรอยู่ ประเทศนี้จึงเกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำและการสุขาภิบาลที่ดี
อันดับที่ 21 เมืองนีอาเม ประเทศไนเจอร์ (Niamey, Niger) - Score: 45
นีอาเม (Niamey) เป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไนเจอร์ (Niger) ซึ่งเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล อยู่ทางใต้ของทะเลทรายสะฮาราในแอฟริกาตะวันตก เมืองนีอาเมตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไนเจอร์ เป็นเมืองศูนย์กลางการปกครอง วัฒนธรรมและเศรษฐกิจ นีอาเมเต็มไปด้วยมลพิษและของเสียต่างๆ ปัญหาด้านระบบสุขาภิบาลและน้ำดื่มส่งผลให้เกิดโรคต่างๆตามมา ทำให้อายุขัยของประชากรที่นี่ลดลง เด็กประมาณ 1 ใน 4 ตายก่อนอายุ 5 ขวบ
อันดับที่ 22 เมืองลูอันดา ประเทศแองโกลา (Luanda, Angola) - Score: 45.2
ลูอันดา (Luanda) เป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศแองโกลา (Angola) ซึ่งเป็นประเทศทางตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปแอฟริกา เมืองลูอันดาตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทางมหาสมุทรแอตแลนติก เป็นเมืองท่าทางทะเลและเป็นศูนย์กลางการบริหารประเทศ ประชากรส่วนใหญ่ในลูอันดายากจน ขาดน้ำดื่ม น้ำที่ใช้ก็เน่าเสียสกปรก ระบบการจัดการน้ำและสุขาภิบาลที่ไม่ดีพอสำหรับเมืองนี้ ส่งผลให้เกิดการระบาดของอหิวาตกโรคและโรคระบาดต่างๆที่เกิดจากน้ำ
อันดับที่ 23 เมืองมาปูโต ประเทศโมซัมบิก(Maputo, Mozambique) - Score: 46.3
มาปูโต (Maputo) เป็นเมืองหลวงของประเทศโมซัมบิก (Mozambique) ซึ่งเป็นประเทศที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปแอฟริก เมืองมาปูโตเป็นท่าเรือบนชายฝั่งมหาสมุทรอินเดีย สินค้าส่งออกหลักคือ ถ่านหิน ฝ้าย น้ำตาลทราย โลหะเคลือบโครเมียม ใยสับปะรด เนื้อมะพร้าวตากแห้ง และไม้เนื้อแข็ง อุตสาหกรรมที่ผลิตในเมืองมีทั้งซีเมนต์ เครื่องปั้นดินเผา เฟอร์นิเจอร์ รองเท้า และยางพารา และมีโรงหลอมอะลูมิเนียมด้วย มาปูโตต้องทนทุกข์ทรมานจากการขาดระบบสุขาภิบาลที่ดี การขาดระบบการกำจัดขยะมูลฝอยและการบำบัดน้ำเสีย ผลกระทบเหล่านี้เป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดของเมืองมาปูโต กองขยะบนถนนและน้ำเสียในแม่น้ำเยอะมากจนเห็นได้ชัด
อันดับที่ 24 เมืองนิวเดลี ประเทศอินเดีย (New Delhi, India) - Score: 46.6
นิวเดลี (New Delhi) เป็นเมืองหลวงของประเทศอินเดีย (India) ตั้งอยู่ทางตอนใตของทวีปเอเชีย ในนิวเดลีคุณจะได้พบทุกอย่างยกเว้นสิ่งมีชีวิตในน้ำ ไม่ว่าจะเป็น ขยะมูลฝอย การไหลของน้ำเสียลงแม่น้ำลำคลอง สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความสกปรก การเจริญเติบโตของโรคที่เกิดจากน้ำ อัตราการเจ็บป่วยของทารก สิ่งเหล่านี้พบได้ในนิวเดลี
อันดับที่ 25 เมืองพอร์ตฮาร์คอร์ต ประเทศไนจีเรีย (Port Harcourt, Nigeria) - Score: 46.8
พอร์ตฮาร์คอร์ต (Port Harcourt) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไนเจอร์ของประเทศไนจีเรีย (Nigeria) ซึ่งเป็นประเทศในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก เมืองพอร์ตฮาร์คอร์ตต้องเผชิญหน้ากับปัญหาการกำจัดขยะที่ยังปนเปื้อนในแม่น้ำสายสำคัญของประเทศ ส่งผลกระทบต่อประชาชนในเรื่องน้ำกินน้ำใช้เป็นอย่างมาก แม่น้ำสายนี้นอกจากจะเต็มไปด้วยขยะแล้วยังขาดการป้องกันการรั่วไหลของน้ำมันที่ปนเปื้อนในแม่น้ำและวิธีการทำความสะอาดอีกด้วย
ข้อมูลและรูปภาพ : google, binscorner, wikipedia
เรียบเรียงโดย : lokmedee